ห้องพัก "บ้่านบนโฮมสเตย์"



ห้องพัก ห้องแอร์  แบบนอนรวมกัน สไตล์โฮมสเตย์  สะอาด  กว้่างขวาง 

                                                               ห้องดอกแก้ว  แอร์ ห้องน้ำในตัวพักได้ 10-15 คน



ห้องจำปี  แอร์  ห้องน้ำรวม พักได้ 4-7 คน



ห้องบุนนาค  แอร์  ห้องน้ำรวม  พักได้  4-6 คน

ห้องจันทร์กะพ้อ แอร์  ห้องน้ำรวม   6-10  คน

ห้องชงโค  แอร์  ห้องน้ำรวม พักได้ 12-15 คน





บรรยากาศริมแม่น้ำแม่กลอง

ห้องสมุดบนบ้าน ณ บ้านบนโฮมสเตย์ สำหรับประชุมสัมมนา สไตล์โฮมสเตย์




ห้องอาหาร   ริมน้ำ   สังสรรค์

 



แพคเกจพิเศษ..เปิดบ้านรับหมู่คณะ ราคาสุดคุ้ม

แพคเกจต้อนรับหมู่คณะ 40คนขึ้นไป ..2 วัน 1 คืน  

ในราคาพิเศษสุดๆ  สำหรับช่วงเปิดบ้านต้อนรับแขกนี้

ราคาพิเศษ  แพคเกจละ 690 บาท/คน   

-  ที่พัก (ห้องแอร์ ทั้งหมด) 

-  อาหาร 2มื้อ  (  อาหารเย็นวันแรก ,อาหารเช้าวันที่สอง)

-  ล่องเรือพาไปเที่ยวตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา  และล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน  ตามลำน้ำแม่กลอง

(น้ำแข็ง  น้ำดื่ม  ฟรี) 

วันแรก  (เสาร์) 
-  แวะนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม  วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
-  ชมการทำน้ำตาลมะพร้าว "เตาทวี"
-  รับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย   ณ ตลาดน้ำบางน้อย
-  แวะเยี่ยมชม "โบสถ์ปรกโพธิ์" ณ  ค่ายบางกุ้ง (โบสถ์ในต้นไม้) unseen thailand
-  เข้าที่พัก บ้านบนโฮมสเตย์
-  รับประทานอาหารเย็น
-  เยี่ยมชมวิถีชีวิตริมน้ำ  หาของอร่อยที่พ่อค้าพายเรือมาขาย  ณ ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา 

-  ล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน

-  พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สอง (อาทิตย์)

-  ตักบาตรพระพายเรือยามเช้า

-  รับประทานอาหารเช้า

-  แวะเยี่ยมชมโบสถ์ไม้แกะสลัก ณ วัดบางแคน้อย

-  แวะชม กุฎีทอง  และพิพิธภัณฑ์ของเก่า  ณ  วัดภูมรินทร์กุฎีทอง 

-  แวะนมัสการ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์   และดอนหอยหลอด 

-  เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

พิเศษ ..สำหรับน้องๆนักเรียน  นักศึกษา  แจ้งชื่อโรงเรียน ร่วมกดlike  www.facebook.com/baanbon  รับส่วนลดเพิ่่มอีก  ท่องเที่ยววันธรรมดา  ราคาพิเศษสุดๆ

เปิดบ้าน."บ้านบนโฮมสเตย์" .คนอัมพวา

บ้านทรงไทย ..เรือนไม้สักทอง.ทั้งหลัง หาดูได้ยาก..ที่เพิ่งจะซ่อมแซมและปรับปรุงเสร็จหมาดๆ เลยอยากจะเปิด

"บ้านบนโฮมสเตย์"  บ้านริมแม่น้ำแม่กลอง  บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ แบบส่วนตัว อยู่ใกล้กับวัดบางแคน้อย ติดกับโรงเจซิ่วฮกตั้ว  แต่เดิมผู้คนในย่่านนั้นจะรู้จักกันว่า "บ้านสีชมพู" (ตอนนี้ สีสวยกว่าเดิม ..สดใส ..โดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเลย)

บ้านริมน้ำ..สไตล์ใกล้ชิดธรรมชาติ ..สุดๆ  (ให้คนเมืองกรุงอิจฉาเล่น)



โฮมสเตย์  อัมพวา บ้านเรือนไทย ริมแม่น้ำแม่กลอง  สวยงาม ทรงคุณค่า

 

ด้านในเป็น  เรือนไม้สักทอง ทั้งหลัง

ห้องโถง

ห้องโถง เรือนไทยไม้สักทอง สำหรับทำกิจกรรม  ประชุม สัมมนา แบบสไตล์โฮมสเตย์ ตามวิถีแบบไทยๆ

มีลานห้องอาหาร/กิจกรรม

มุมสงบสำหรับคนรักการอ่าน  ณ ห้องสมุดบนบ้าน  แห่งบ้านบนโฮมสเตย์

อวดบ้านกันพอสังเขป .. วันหลังจะเอารูปมาฝากอีก  

แต่้ถ้าใครอยากจะมาขึ้นบ้านใหม่"บ้านบนโฮมสเตย์" ก้อโทร.หากันโดยตรงจะดีกว่า  086-5444090  

(ขออนุญาติโฆษณาสำหรับคนอัมพวา..ที่เห่อบ้านแบบสุดๆ  แหม..ปรับปรุงบ้านไว้ต้อนรับแขกในวันพัก
ผ่อนจากเที่ยวตลาดน้ำแล้ว )

ตอนนี้เปิดเวปใหม่อีกเวป ให้เพื่อนๆ จำชื่อกันง่ายๆ เป็น http://www.baanbonhomestay.com/  บ้านบนโฮมสเตย์

ที่มาที่ไป"อัมพวา"

  "เมืองแม่กลอง" อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามซึ่งยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ บนฝั่งแม่น้ำแม่กลอง แม้จะเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ แต่ก็อยู่ไกลจากกรุงเทพฯเีพียง 60 กว่ากิโลเมตร  ชาวบ้านที่นี่ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบดัั้งเดิม ไม่ว่าจะทำสวน ผัก ผลไม้  การเคี่ยวน้ำตาล ประมง  การติดต่อค้าขายทางเรือ

    ดินแดนแห่งนี้จึงเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิต

ไทยแห่งชุมชนสายน้ำให้ดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน

    ในอดีต "อัมพวา" ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดน้ำและมีชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรมมานาน  ต่อมาความเจริญด้านคมนาคมทางบกมีถนนหนทางความสะดวกสบาย มีมากขึ้นทำให้ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไป  เหลือเพียงแต่ร่องรอยของความเจริญในอดีต ที่ยังคงปรากฎอย่างเด่นชัดในปัจจุบัน

   ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเทศบาลตำบลอัมพวา  และคนอัมพวา  จึงได้ฟื้นฟู ตลาดน้ำอัมพวา ขึ้นมาอีกครั้งเพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ เรียกว่า "ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา" เป็นตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรกในประเทศไทย  ตอนเย็นๆชาวบ้านก็เริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายชนิดมาขาย  เช่นอาหาร,ผลไม้ ขนมโบราณ เปิดช่วงเย็น16.00- 22.00 น. วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์  และนักขัตฤกษ์ 

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา  จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่เป็นที่นิยมด้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จัดกิจกรรมต่างๆ   ชมวิถีชีวิตแบบเดิมๆ  วิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับสายน้ำ  ผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลายกับลูกหลานที่มีโอกาสเห็นหน้ากันบ่อยขึ้น  ลูกหลานกลับมาทำมาหากินยังบ้านเกิด  กลับมาสู่วิถีธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์  ทั้งด้านวัฒนธรรม  สิ่งแวดล้อม และศิลปะอันล้ำค่า